ผู้เสียหายกว่า20คนรวมตัวกันที่สภ.นางรอง"คดีแอบอ้าง หลอกลวง ฉ้อโกง"

จากกรณีวันที่ 25 พ.ย. 2564 บริษัทบายสมาร์ทพลัส ได้จัดแถลงข่าวไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องธุรกรรมใดๆ กับบริษัทสมาร์ทพลัส 2099 โดยมีผู้แอบอ้างเป็นผู้บริหาร หลอกลวงให้ประชาชนลงทุนเสียหายหลายราย ดังรายละเอียดตามที่ได้เคยแถลงข่าวในครั้งนั้นแล้ว เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2565  บริษัทบายสมาร์ทพลัส และผู้เสียหายกว่า 20 คน ได้รวมตัวกันที่ สภ.นางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ เตรียมเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับมิจฉาชีพ หลังหลอกชาวบ้านว่าหากใครอยากมีร้านสะดวกซื้อ ให้มาร่วมลงทุนผ่านแอปพลิเคชัน แต่ต้องจ่ายเงินมัดจำบางส่วนก่อน จนมีผู้เสียหายหลงเชื่อเกือบ 200 คน สูญเงินหลายสิบล้านบาท

เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา มีผู้เสียหายหลายจังหวัด ได้รวมตัวกันไปที่ สภ.นางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ หลังทราบข่าวว่าตำรวจ สภ.นางรอง จับกุมผู้ที่หลอกลวงแอบอ้างเป็นผู้บริหารของบริษัทแห่งหนึ่ง หลอกให้ชาวบ้านร่วมลงทุนสร้างร้านสะดวกซื้อผ่านแอปพลิเคชัน ตั้งแต่ร้านขนาดเล็กไปจนถึงร้านขนาดใหญ่ สามารถลงเงินลงทุนได้ตั้งแต่หลักหมื่นไปถึงหลักแสนบาท 

เมื่อเหยื่อหลงเชื่่อโอนเงินให้ สุดท้ายก็โดนหลอกไม่สามารถติดต่อได้ ซึ่งตอนนี้ผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความไว้ในหลายท้องที่ แต่ปรากฏว่าเมื่อผู้เสียหายมาสอบถามตำรวจ ปรากฏว่าผู้ต้องหารายนี้ถูกจับกุมตามหมายจับคดีขับรถขณะมึนเมาสุรา และขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินเสียหาย เมื่อปี 2560 ไม่ใช่คดีฉ้อโกงที่กลุ่มผู้เสียหายได้แจ้งความไว้ในหลายท้องที่

เบื้องต้นตอนนี้ผู้เสียหายอยู่ระหว่างเจรจรกับคู่กรณี ว่าจะยอมคืนเงินชดใช้ค่าเสียหายให้กับกลุ่มผู้เสียหายหรือไม่ ซึ่งมีร้อยเวร สภ.นางรอง เป็นคนกลาง ผู้เสียหายเล่าว่า พฤติกรรมที่ถูกหลอก ชายคนนี้จะอ้างว่าเคยเป็นผู้บริหารของบริษัทแห่งหนึ่งในการบริหารโครงการร้านสะดวกซื้อ จึงทำให้น่าเชื่อถือ ทำทีเข้ามาชักชวนให้ลงทุนเปิดร้านสะดวกซื้อ ตนเองเห็นว่าน่าจะได้กำไรดี จึงตัดสินใจลงทุนไปจำนวนหนึ่ง แต่สุดท้ายกลับโดนหลอก ซึ่งกรณีดังกล่าวมีชาวบ้านในหลายจังหวัดตกเป็นเหยื่อเกือบ 200 คน สูญเงินไปหลายสิบล้านบาท

ภาพ/ข่าว:สำนักบรรณาธิการข่าวสังคมตำรวจ